ลาซานญ่าเห็ด ทำง่าย ๆ เพิ่มคุณค่าให้พลังชีวิต

 

ส่วนผสม

- แผ่นลาซานญ่า 6 แผ่น
- หอมหัวใหญ่หั่นสี่เหลี่ยม 1 หัว
- กระเทียมสับ 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันพืช 500 กรัม
- เห็ดฟางหั่น 30 กรัม
- แป้งสาลี 400 กรัม
- มะเขือเทศสับ 1 ช้อนโต๊ะ
- ใบโหระพาสับ 1 ช้อนชา
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
- เกลือป่น 1 ช้อนชา
- พริกไทยป่น 1 ช้อนชา
- ผักโขม 500 กรัม
- ชีสขูดฝอย 300 กรัม
- มัสตาร์ด 1/2 ช้อนชา
- เนยสด 30 กรัม
- แป้งสาลี 90 กรัม
- นมสด 1/2 ถ้วย
- ไวท์ซอส 

วิธีทำ

1. ใส่น้ำมันพืชลงในกระทะตั้งไฟพอร้อน ใส่หอมหัวใหญ่ลงผัดพอหอม ใส่เห็ด กระเทียมผดัดต่อ 5 นาที ใส่แป้งสาลีผสมให้เข้ากัน 1 นาที
2. ใส่มะเขือเทศ ใบโหระพา น้ำตาลทราย เกลือ พริกไทย ชิมรส เคี่ยวไฟอ่อน 20 นาที
3. เตรียมไวท์ซอส ละลายเนยในกระทะ ใส่แป้งผัดให้เข้ากัน ใส่นมสด คนให้เข้ากันเร็วๆ ต้มจนส่วนผสมข้นเล็กน้อย ใส่มัสตาร์ด คนจนเข้ากันดี
4. ผักโขมโรยเกลือ พริกไทย เคล้าให้เข้ากัน ปั้นเป็นก้อนกลมให้ได้ 24 ก้อน
5. วางแผ่นลาซานญ่า ตักส่วนผสมของเห็ด มะเขือเทศราดทับให้ทั่วแผ่น วางผักโขมด้านบน ราดทับด้วยซอสขาว ชีสขูดฝอย
6. นำเข้าเตาอบไฟ 190 องศาเซลเซียส ประมาณ 35 นาที จัดเสิร์ฟขณะร้อนจัด

ข้อเสนอแนะ
1. แผ่นลาซานญ่ามีขายทั้งชนิดแห้งและชนิดสด ถ้าเป็นชนิดสดสามารถนำไปใช้ได้เลย ไม่ต้องต้มหรือลวกก่อน
2. สามารถทำส่วนผสม 2-3 ชั้นได้ตามชอบ

ซุปครีมเห็ด เมนูเรียกน้ำย่อย

ซุปครีมเห็ด

ส่วนประกอบ         1. เห็ดกระดุมฝรั่ง หรือเห็ดชอมปินยง Champignon (แชมปิยอง ก็เรียก) ถ้าหาแบบสดๆได้ก็จะดีมาก (หากคุณอยู่ภาคเหนือแถวเชียงราย หรือถ้าใน กทม. ก็มีขายในฟู้ดแลนด์ หรือซูปเปอร์มาเก็ตใหญ่ๆ แต่ราคาแพงมาก) ถ้าหาไม่ได้จริงๆก็ใช้แบบกระป๋องก็ได้         2. เนย ใช้เนยธรรมดา หรือเนยสำหรับทำอาหารก็ได้         3. นมสด         4. น้ำสต๊อกไก่ประมาณสองถ้วยตวงนิดๆ หรือ ซุปไก่ก้อนสำเร็จรูปหนึ่งก้อน ตามโอกาสและความสะดวก         5. แป้งสาลี หรือแป้งข้าวโพด ใช้ประมาณช้อนโต๊ะกว่าๆ         6. เครื่องเทศและเครื่องปรุง ได้แก่ เกลือ พริกไทยดำ น้ำตาล ผงอโรมาต (Aromat) ถ้าหาได้ไม่ลำบาก วิธีทำ :-         1. ล้างเห็ดให้สะอาด หั่นตามขวางให้บางพอประมาณ ล้างอีกครั้งพักไว้ทิ้งให้สะเด็ดน้ำ จากนั้นละลายเนยประมาณหนึ่งช้อนโต๊ะครึ่ง ในหม้อ         2. นำเห็ดที่ล้างแล้วลงไปผัดในเนย ช่วงนี้เติมเกลือ พริกไทยดำ และผงอโรมาตลงไปตามใจชอบ ผัดจนกระทั่งน้ำเห็ดเริ่มออกมา เห็ดจะหดตัวลง เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล ซึ่งขั้นตอนนี้ถ้าใช้เห็ดกระป๋องก็ตัดออกไปได้เลย แค่เอาเห็ดมาผัดเนยพอให้หอมแล้วปรุงรสก็พอ         3. เติมน้ำลงไปตามชอบ ราวๆเกือบสองถ้วยตวง หรือกะๆ เอาเนื่องจากมันมีน้ำจากเห็ดด้วย ใส่น้อยกว่าตอนทำซุปข้าวโพดหน่อยนึง แต่ให้ปริมาณน้ำในหม้อรวมกันแล้วประมาณสองถ้วยตวง ... งงไหมนี่         4. เติมนมลงไปราวๆถ้วยตวงกับอีกนิดหน่อย หรือตามชอบ ชิมปรุงรส การปรุงรสของซุปเห็ดควรให้ออกเค็มนำ แต่เค็มพอปะแล่มๆ หวานตามหรือไม่ขึ้นกับรสนิยม แต่อย่าให้มากจนออกหวานเป็นใช้ได้ ต้มต่อไปจนกระทั่งซุปเริ่มเดือด จึงใส่แป้ง ลดไฟหรือปิดไฟ คนต่อไปสักพักแล้วตักเสิร์ฟได้         สำหรับซุปครีมนี้ ถ้าใครอยากได้รสชาติซุปที่เข้มข้น ก็อาจจะเติมครีมสดลงไปกับนมด้วยก็ได้ แต่ถ้าใครรู้สึกเลี่ยนนมเนยก็ไม่ควรใส่ หรืออาจจะลดปริมาณนม เพิ่มปริมาณน้ำ ลดแป้ง เพิ่มน้ำตาล เติมเกลือ ฯลฯ เช่นนี้ตามแต่ชอบใจตามรสนิยม ถ้ามีขนมปังอบกรอบชิ้นเล็กๆ หรือกรูตอง (Cruton) โรยลงไปด้วยสักหยิบมือก็ถือว่าครบเครื่อง

จับฉ่ายอีกแบบหนึ่ง

ต้มจับฉ่าย(เจ) สูตรที่ 2 



ส่วยผสม

กะหล่ำดอก   1 หัว
ผักโขมจีน   1 ต้น
ผักกวางตุ้ง  1 ต้น
ผักกาดขาว  1 ต้น
เห็ดหอมปรุงรส  5 ดอก
เต้าหู้ขาวหั่นเป็นชิ้นพอคำ 1  เเผ่น
เต้าหู้เหลืองแห้งทอดกรอบ  3-4  ชิ้น
ฟองเต้าหู้  1  แผ่น
น้ำตาลทราย  1/2 ช้อนชา
เกลือป่น  1/2 ช้อนชา
ซีอิ๊วขาว  2  ช้อนโต๊ะ
น้ำ  2   ถ้วย
น้ำมันพืช  2 ช้อนโต๊ะ


วิธีทำ


1.ล้างผักทั้งหมดให้สะอาด หั่นชิ้นใหญ่ กะหล่ำดอกหั่นเป็นชิ้นพอคำ
2. หักฟองเต้าหู้เป็นชิ้น
3. ใส่น้ำมันในกระทะ ตั้งไฟให้ร้อน ใส่ผักลงไปผัด สักครู่ใส่น้ำตาล เกลือ ซีอิ๊วขาว เห็ดหอม เต้าหู้ขาว ฟองเต้าหู้ เต้าหู้เหลือง ผัดจนนิ่ม
4. ใส่น้ำลงในหม้อ ใส่ผักที่จัดแล้ว ต้มประมาณ 10 นาที ตักใส่ชาม เสิร์ฟ

สูตรอาหาร ต้มจับฉ่ายเจ(สูตรที่1) ต้มจับฉ่ายเจ สูตรนี้ใส่ชุงฉ่าย แต่ไม่ใส่มะระ

กะหล่ำปลี	1	หัว
ชุงฉ่าย(คล้ายกวางตุง แต่ต้นใบใหญ่กว่า)	1	ถ้วย
คะน้า	1	ถ้วย
ขึ้นฉ่าย	1	ถ้วย
ผักกวางตุ้ง	1	ถ้วย
หัวไชเท้า	1	หัว
เห็ดหอม	1	ถ้วย
รากผักชี	3	ราก
เต้าหู้(ทอดก่อน)	2	ก้อน
น้ำตาลปีบ	1	ช้อนโต๊ะ
เกลือ	2	ช้อนชา
ซีอิ๊ว	2	ช้อนโต๊ะ
น้ำมันพืช	2	ช้อนโต๊ัะ
ซอสถั่วเหลืองปรุงรส	1	ช้อนโต๊ะ
ซีอิ๊วดำ	1	ช้อนโต๊ะ

1. ผ่ากะหล่ำปลีเป็น 8 ซีก และผักทุกอย่างหั่นชิ้นโต ๆ
2. โขลกรากผักชี เจียวกับน้ำมันพืชจนหอม ใส่ต้นชุงฉ่ายลงผัด แล้วจึงตามด้วยผักอื่นๆ ใส่น้ำ ใส่เกลือ ซีอิ๊วขาว น้ำตาลปีบ ใส่ซอสถั่วเหลืองปรุงรส
3. ตักลงหม้อ ใส่เห็ดและเต้าหู้ที่ทอดไว้ ใส่ซีอิ๊วดำ เติมน้ำต้มให้เปื่อยยกลง

ไข่ตุ๋นปูอัด ใครที่มีเด็กอยู่ในบ้าน อาจจะเคยพบกับปัญหานี้ เด็กเบื่ออาหาร อะไรอะไร ก็ไม่อร่อย ถ้าใช่ เราขอแนะนำ เมนูอาหารสำหรับเด็ก ไข่ตุ๋นปูอัด ทำง่าย แต่อร่อยล้ำ

เครื่องปรุง 1. ไข่ไก่(เบอร์ 1) 3 ฟอง 2. น้ำเปล่า 3. ปูอัด 3-4 แท่ง(หั่นแทยง) 4. แครอทหั่นลูกเต๋าเล็ก 2 ช้อนโต๊ะ หั่นแท่งเล็กน้อย 5. ต้นหอมซอย เล็กน้อย 6. ซิอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ 7. ซอสปรุงรส 2 ช้อนชา 8. น้ำปลา 1/2 ช้อนโต๊ะ
	1. ใส่น้ำในลังถึง จากนั้นนำลังถึงตั้งไฟ ระหว่างรอน้ำเดือด ตอกไข่ใส่ชาม ใช้ซ่อมตีไข่ให้ไข่แดงและไข่ขาวเข้ากัน ปรุงรสด้วย ซิอิ๊วขาว ซอสปรุงรส และน้ำปลา จากนั้นค่อยๆ เติมน้ำเปล่าลงไป คนให้เข้ากัน ใส่ปูอัดและแครอท ที่หั่นเตรียมไว้ส่วนหนึ่งลงในชาม แบ่งไว้ส่วนหนึ่ง เอาไว้แต่งหน้า จากภาพจะเห็นแครอทลอยอยู่บนไข่ ส่วนปูอัดจะจมอยู่ด้านล่างครับ
	2. พอน้ำเดือด นำชามไข่ที่เตรียมไว้ ใส่ในลังถึงปิดฝา ใช้ไฟปานกลาง นึ่งประมาณ 20 นาที เมื่อไข่สุกจะได้ไข่ตุ๋นหน้าตาประมาณในภาพ ถึงขั้นตอนนี้อาจจะยังไม่ต้องให้ไข่สุก ทั้ง 100 % ก็ได้ครับ เพราะเดี๋ยวต้องแต่งหน้าแล้วนึ่งต่ออีก เอาเป็นว่าให้เกือบสุกก็แล้วกัน เวลาที่ใช้ในการนึ่งจะไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับไข่ว่าเป็นไข่ที่ออกจากตู้เย็นหรือเปล่า และไฟที่ใช้บางทีอาจจะไม่เท่ากัน แต่ที่สำคัญ เวลาใส่ชามไข่ในลังถึง ต้องรอให้น้ำเดือดก่อนครับ
	3. แต่งหน้าไข่ตุ๋นด้วย ปูอัด โรยแครอทแบบแท่ง ต้นหอมหั่นฝอย จากนั้นปิดฝาลังถึง นึ่งต่อประมาณ 2-3 นาที ให้ปูอัดและผักสุก ยกเสิร์พ ทานร้อนๆ อร่อยมากขอบอก วิธีทดสอบว่าไข่สุกแล้วหรือยัง ให้ใช้ช้อนหรือซ่อมแทงลงไปที่เนื้อไข่ จิ้มลงไปเบาๆ ก็พอครับ ไม่ใช่กวนไข่ ถ้าไข่สุกเนื้อไข่จะเกาะกันดี หากเป็นน้ำสีไข่ดิบไหลขึ้นมา ก็แสดงว่าอาจจะยังสุกไม่ทั่วดี ปิดฝานึ่งต่ออีกหน่อยครับ

you call me "FF+"

my friend call me" FF or FFF+" it 's listent good .

i'm ninat,mr.ninat

i'm ninat ,thai,my nick name's F